ต้องบอกก่อนว่าในยุคสมัยนี้การจะเสริมความงามไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น เพราะความสวยมันรอกันไม่ได้นี่หน่า ก็ต้องพึ่งทางลัดเข้าคลินิกเสริมความงาม เข้าไปปุ๊ป ออกมาก็เป๊ะเลย หลายๆคนจึงพึงพอใจที่จะเข้าไปเสริมความงามกันที่คลินิกเพื่อให้ความสวยคงอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งคลินิกแต่ละที่ก็มีบริการให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสปาหน้าใส ฉีดวิตตามินผิวออร่า ฉีดฟิลเลอร์ เสริมโบท็อกซ์ ทำเลเซอร์ และ อื่นๆอีกมากมาย รวมถึงการ “ร้อยไหม” ซึ่งแน่นอนว่าคลินิกเกือบทุกที่ต้องมีบริการนี้แน่นอน เพราะการร้อยไหมมีมายาวนานเป็นสิบๆปี ใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ใบหน้าไม่ยกกระชับ กรอบหน้าไม่คม ร้อยไหม ช่วยคุณได้แน่นอน เจ็บน้อยแต่สวยนาน
ร้อยไหมคืออะไร?
ร้อยไหม พูดง่ายๆก็คือ การดึงหน้าให้ตึง ผิวที่หย่อนคล้อยก็กลับมาตึงกระชับได้ ด้วยการร้อยไหม ทำให้ใบหน้าดูเด็กขึ้น สวยใสขึ้น กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น รอยตีนกา ร่องแก้ม ดูตื้นขึ้น ที่สำคัญอยู่ได้นานเป็นปีๆ จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่นิยมการร้อยไหมกันเพื่อยกกระชับหน้า เพราะทำทีเดียวแล้วคุ้ม อยู่ได้นาน ถึงแม้ตอนทำจะมีการเจ็บอยู่บ้าง แต่เราก็สามารถทนได้ด้วยยาชา การร้อยไหมยังช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินด้วย ทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อเวลาผ่านไปเส้นไหมก็สามารถละลายเองได้ไม่เป็นอันตรายต่อผิวของเรา หลังจากร้อยไหมสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นใดใด และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังการร้อยไหมไปแล้ว 1 – 2 เดือน ทั้งนี้หลังร้อยไหมเสร็จใบหน้าของเราจะยกกระชับแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเส้นไหมที่ใช้ร้อย สภาพใบหน้าของแต่ละบุคคล รวมถึงฝีมือของแพทย์ก็ต้องมีความชำนาญเช่นกัน
ทำไมถึงต้องร้อยไหม?
เพราะการร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับใบหน้า ผิวที่หย่อนคล้อย เห็นผลจริงๆ โดยคนทั่วไปที่นิยมร้อยไหมกัน ก็จะค่อนข้างมีอายุประมาณ 35 ขึ้นไป เพราะทำแล้วไม่ส่งผลอันตรายต่อใบหน้า ไหมสามารถละลายเองได้ และอยู่ได้ยาวนาน 1 – 2 ปี อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลาผ่าตัดศัลยกรรม เพียงแค่ใช้เส้นไหมร้อยเข้าในผิวหนังของเรา หน้าก็สวยยกกระชับขึ้นได้ทันที และไม่เจ็บตัวมาก
วัสดุที่นิยมใช้ในการร้อยไหม
วัสดุที่ใช้ในการร้อยไหมและปลอดภัยมี 3 ชนิดคือ POD / PLLA / PCL
- PDO (Polydioxanone) เส้นไหมจะละลายหมดภายใน 4-6 เดือน เส้นมีสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด
- PLLA (Polylactate) เส้นไหมละลายหมดภายใน 12-18 เดือน เส้นสีขาวใส แต่จะขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหาได้บ้าง เช่น ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย
- PCL (Polycaprolactone) เส้นไหมละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เส้นใหญ่ที่สุด
การร้อยไหมนิยมทำกันตรงจุดไหน
แน่นอนว่าคนทั่วไปจะนิยมทำการร้อยไหมบริเวณใบหน้าเพราะเราต้องใช้หน้าตาในการพบปะผู้คน การทำใบหน้าให้สวยเด้งดูอ่อนเยาว์ก็ยิ่งทำให้เราดูดีขึ้นด้วย ซึ่งการร้อยไหมบริเวณใบหน้านั้นนอกจากจะเก็บกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น ผิวที่หย่อนคล้อยดูตึงกระชับขึ้น ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาในส่วนของคิ้วตก ตาตกได้อีกด้วย หรือแม้กระทั่งดึงมุมปากขึ้น แก้ปัญหาคางสองชั้นก็ทำได้เช่นกัน แต่อันที่จริงแล้วการร้อยไหมก็สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีข้อบกพร่อง เช่น ลำคอ มือ ต้นขา ต้นแขน ลำตัว หน้าท้อง ทรวงอก เป็นต้น แต่จะไม่ค่อยนิยมทำกันเท่าไหร่ เพราะเป็นที่ที่คนไม่โฟกัสมาก ไม่ต้องโชว์ให้ใครเห็น เอาหน้าสวยไว้ก่อนนั่นคือสิ่งสำคัญ
การร้อยไหมดีอย่างไร?
- ยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมไม่เสียเวลาไม่ต้องพักฟื้น
- หลังทำการร้อยไหมใบหน้าจะยกกระชับอยู่ได้นาน 6 – 24 เดือน
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Hyaluronic acid และ อิลาสติน ให้เกิดใหม่ รวมถึงช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นด้วย
- แก้ปัญหาในเรื่องผิวหย่อนคล้อยให้ดูยกกระชับขึ้น กรอบหน้าดูชัดขึ้น หน้าเป๊ะกว่าเดิม
- ยกกระชับใบหน้าในทันที และยกกระชับผิวหน้าในระยะยาวไม่ต้องเสียเวลาทำบ่อย
การดูแลตนเองหลังทำการร้อยไหม
- งดใช้เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 1 วัน
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ประคบเย็นหลังทำการร้อยไหมเพื่อลดอาการบวมช้ำโดยประมาณ 2 วัน
- นอนหนุนหมอนสูงๆอย่างน้อย 3 วัน
- หลีกเลี่ยงการทำฟันอย่างน้อย 3 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการขยับเคลื่อนใบหน้าและลำคออย่างรุนแรง 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬา หรือ ออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการนวดหน้าและการทำทรีทเม้นท์บริเวณใบหน้า 3 สัปดาห์
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าอะไรที่ทำแล้วเราสวยขึ้นดูดีขึ้น ก็ทำไปเถอะ ความสุขของเราทำแล้วสบายใจ รู้สึกดี ก็ควรทำ แต่กก็ควรทำแต่พอดีให้อยู่ในขอบในเขต อย่าไปทำให้มันเยอะเกินไปมันจะกลายเป็นไม่สวย อาจจะออกมาไม่ดีก็ได้ เพราะความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูแลตัวเองจากภายในกันด้วย เช่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ จะได้สวยจากภายในสู่ภายนอก และที่สำคัญไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ควรศึกษาดูให้แน่ชัดเสียก่อน หาข้อมูลให้แน่นๆ จะได้ไม่เจ็บตัวและเจ็บใจทีหลัง…